การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ
ให้ได้ประสิทธิภาพใช้งานได้จริง
การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ เป็นคำถามที่หลายคนกำลังสงสัย โดยเครื่องฟอกอากาศที่จำหน่ายในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายราคา ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีระบบการทำงานที่เป็นจุดเด่น รวมถึงประสิทธิภาพในการฟอกอากาศแตกต่างกันไป จึงควรพิจารณาหลายๆ ด้านก่อนตัดสินใจ
แนวทางในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพใช้งานได้จริงตรงกับความต้องการ และคุ้มค่ามากที่สุด
• เลือกขนาดของเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะกับห้อง
เครื่องฟอกอากาศก็คล้ายกับเครื่องปรับอากาศที่จะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อมีขนาดที่เหมาะสมกับขนาดห้อง ยิ่งห้องใหญ่ก็ยิ่งต้องเลือกเครื่องที่มีขนาดใหญ่ เพื่อที่จะได้ฟอกอากาศได้อย่างทั่วถึง แต่ถ้าใช้เครื่องใหญ่ในห้องขนาดเล็ก ก็ถือเป็นการกินไฟจึงต้องเลือกให้พอดี ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ซึ่งผู้ผลิตเครื่องฟอกอากาศจะระบุในสเปคสินค้าไว้ว่าเหมาะกับห้องกี่ตารางเมตร
• เลือกเครื่องที่กรองฝุ่นได้ละเอียดและฟอกอากาศได้เร็ว
เครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพต้องสามารถกรองฝุ่นได้ละเอียดและเร็ว เพราะถ้าไม่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กอย่าง PM2.5 ได้ หรือกรองอากาศได้รวดเร็วเพื่อให้เรามีอากาศบริสุทธิ์ไว้หายใจก็ไร้ความหมาย ซึ่งปัจจัยที่ต้องดูว่าเครื่องฟอกอากาศกรองฝุ่นได้อย่างไร ต้องดูค่า CADR และค่า Air Flow
(* ค่า CADR ย่อมาจาก Clean Air Delivery Rate คือปริมาณอากาศที่เครื่องฟอกอากาศสามารถเปลี่ยนถ่ายได้ใน 1 นาที หน่วยคือ CFM ย่อมาจาก Cubic Feet per Minute ยิ่งตัวเลขสูงก็แปลว่าเครื่องฟอกอากาศทำงานได้ดี)
(* ค่า Air Flow หรือ Air Volume คือค่าความเร็วลม เป็นตัวที่บ่งบอกว่าเครื่องฟอกอากาศสามารถกรองอากาศและปล่อยอากาศบริสุทธิ์ได้เร็วแค่ไหน ดังนั้น ยิ่งค่า Air Flow สูงมาก ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศได้รวดเร็ว)
• เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีระบบการทำงานที่ตอบโจทย์
ในอากาศมีสิ่งที่ไม่พึงประสงค์มากมายไม่ใช่แค่ฝุ่นเท่านั้น แต่ยังมีทั้งเชื้อโรค สารเคมีอันตราย สารก่อภูมิแพ้และกลิ่น ดังนั้น เครื่องฟอกอากาศจึงต้องพัฒนาระบบกรองอากาศให้ตอบโจทย์ต่อผู้ใช้งานด้วย โดยเครื่องฟอกอาศของไดกิ้นมีการทำงานที่โดดเด่นด้วยระบบฟอกอากาศทั้งภายนอกและภายในเครื่อง ที่จะยับยั้งสิ่งที่เป็นอันตรายต่อการหายใจได้เป็นอย่างดี รวมถึงเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่น PM2.5 และเซ็นเซอร์ตรวจจับกลิ่น สามารถฟอกอากาศอัตโนมัติเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกต่างๆ
• เลือกเครื่องฟอกอากาศที่การออกแบบและการจัดวาง
นอกจากการเลือกขนาดเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับขนาดห้องแล้ว การออกแบบเครื่องฟอกอากาศก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรคำนึงถึงไม่แพ้กัน เพราะเครื่องฟอกอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องวางไว้ส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านตลอดเวลา จึงควรเลือกสีและวัสดุของเครื่องที่เข้ากับการตกแต่งบ้าน รวมทั้งรูปทรงที่กะทัดรัด เช่น เครื่องฟอกอากาศทรงสูงที่สามารถวางไว้ได้ทุกมุมห้องโดยไม่กินพื้นที่ และสำหรับการออกแบบเครื่องฟอกอากาศของไดกิ้นนั้นเป็นแบบช่องลมเข้า 3 ทิศทาง ทั้งด้านหน้า ด้านซ้าย และด้านขวา โดยมีการกระจายลมออกทางด้านบน จึงทำให้วางใกล้ผนังได้ไม่ทำให้ผนังสกปรก ช่วยประหยัดพื้นที่ และช่วยให้บ้านดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
• เลือกเครื่องฟอกอากาศที่เสียงเบา ทำงานเงียบ
เครื่องฟอกอากาศก็คล้ายกับเครื่องปรับอากาศ ส่วนใหญ่เราเปิดใช้ตอนทำงานและตอนนอนหลับพักผ่อน ดังนั้น เครื่องที่ทำงานได้เงียบจึงดีต่อสมาธิมากกว่า ระดับเสียงที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 30-31 เดซิเบล ขณะที่เครื่องฟอกอากาศของไดกิ้นมีระดับเสียงต่ำสุดเพียง 19 เดซิเบล จากการออกแบบที่รองรับการใช้งานเป็นอย่างดี เครื่องจึงทำงานเงียบ ตอบโจทย์ทุกเวลาที่ต้องการใช้งาน
• เลือกการบริการหลังการขายที่ดี
เครื่องฟอกอากาศจำเป็นต้องเปลี่ยนไส้กรองฝุ่นหรือแผ่นกรองดักเก็บฝุ่น เช่น 6 เดือน หรือ 1 ปี จึงควรคำนึงถึงด้วยว่าสามารถหาซื้อไส้กรองมาเปลี่ยนได้ง่ายหรือไม่ และมีค่าใช้จ่ายแพงหรือไม่ รวมถึงถ้าสินค้ามีการชำรุด ทางบริษัทมีบริการหลังการขายเป็นอย่างไร ซึ่งทางไดกิ้นนั้นมีบริการหลังการขาย ทั้งด้านงานซ่อม การจำหน่ายอะไหล่ การให้คำแนะนำ การแจ้งติดตามงานอย่างใส่ใจและทั่วถึง จึงหมดกังวลในเรื่องนี้ได้
เครื่องฟอกอากาศมีดีกว่าที่คิด ไม่เพียงเหมาะกับการใช้งานในช่วงที่มีวิกฤตฝุ่น PM2.5 แต่ยังเหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไป เพื่อให้เรามีอากาศหายใจที่สะอาด บริสุทธิ์ ปราศจากเชื้อโรคและกลิ่น รวมถึงบางรุ่นยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นทำให้ผิวหนังไม่แห้ง เรียกได้ว่าดีสองต่อ ทั้งด้านระบบหายใจและผิวหนัง
สำหรับใครที่กำลังลังเลว่า “จะเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี?” เครื่องฟอกอากาศของไดกิ้นนั้นสามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถกรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีปล่อยประจุ Active Plasma และระบบ Streamer ที่กรองอากาศภายในเครื่อง พร้อมทั้งแผ่นกรองฝุ่นไฟฟ้าสถิต HEPA ที่สามารถช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM2.5 ได้คุ้มค่า ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
แหล่งที่มาข้อมูลและภาพ : บริษัท สยามไดกิ้นเซลล์ จำกัด